Ajin : ฅนไม่รู้จักตาย
Ajin : อมตะ + สแตนด์ Is OP!!
ในช่วงนี้เราอาจจะเห็นหนัง Live Action ญี่ปุ่นที่จะสร้างจากการ์ตูนหรือนิยายที่มีเนื้อหาค่อนไปทาง ดราม่า หรือ รักโรแมนติก ซึ่งมีมาฉายในไทยเยอะกว่า Live Action แบบคลุกฝุ่น ซึ่งหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามาก็มาแบบสนุกบ้างแต่ไม่ค่อยสุด (จากใจผมที่ติดตามเรื่องนั้น ๆ อยู่) และบางเรื่องก็เข้าขั้นแย่เลยก็มี แต่ Ajin จะเป็นอีกเรื่องที่ถ้าคุณได้เข้าไปดู คุณจะได้สนุกและอาจจะได้แง่คิดอะไรบางอย่างกลับไป แม้ว่ามันจะเป็นหนังบู๊ ๆ ที่คนอาจจะไม่ค่อยได้แง่คิดดี ๆ กลับไปเลยก็ตาม
ในช่วงนี้เราอาจจะเห็นหนัง Live Action ญี่ปุ่นที่จะสร้างจากการ์ตูนหรือนิยายที่มีเนื้อหาค่อนไปทาง ดราม่า หรือ รักโรแมนติก ซึ่งมีมาฉายในไทยเยอะกว่า Live Action แบบคลุกฝุ่น ซึ่งหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามาก็มาแบบสนุกบ้างแต่ไม่ค่อยสุด (จากใจผมที่ติดตามเรื่องนั้น ๆ อยู่) และบางเรื่องก็เข้าขั้นแย่เลยก็มี แต่ Ajin จะเป็นอีกเรื่องที่ถ้าคุณได้เข้าไปดู คุณจะได้สนุกและอาจจะได้แง่คิดอะไรบางอย่างกลับไป แม้ว่ามันจะเป็นหนังบู๊ ๆ ที่คนอาจจะไม่ค่อยได้แง่คิดดี ๆ กลับไปเลยก็ตาม
เรื่องราวย่อ ๆ ในเรื่องจะเริ่มต้นจากการที่มนุษย์ได้ค้นพบกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถ "ฆ่า" มันได้ มนุษย์ได้ให้ความสนใจและเรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ว่า อาจิน ซึ่งเหล่าอาจินเนี่ยก็แฝงตัวอยู่กับมนุษย์เนี่ยแหละ แทบจะแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นมนุษย์ใครเป็นอาจิน ซึ่งก็ได้มีการตั้งค่าหัวและตามหาเหล่าอาจิน นางาอิ เคย์ พระเอกของเรื่องก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าอาจินเช่นกัน และถูกรัฐบาลจับตัวไปได้ แต่ ซาโต้ อาจินอีกคนนึงก็ได้ช่วยเหลือเคย์เพื่อร่วมกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล แต่ด้วยความเห็นที่ไม่ตรงกันเขาจึงปฏิเสธและเลือกที่จะยืนหยัดอยู่ข้างมนุษย์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงก็ลองไปติดตามกันดูนะครับ
เนื่องจากตัวผมไม่เคยติดตามการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนทำให้ไม่ได้รู้เนื้อหา หรือ เรื่องราวของอาจินมาก่อน จึงเหมือนเราได้ไปดูหนังเรื่องใหม่โดยที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากนัก จึงทำให้หลังจากดูจบจึงรูสึกประทับใจ สนุกและชอบเรื่องราวที่สื่อออกมามาก โดยในส่วนที่ชอบที่สุดคงเป็นเรื่องของฉากแอ๊กชั่นที่จัดหนักจัดเต็มแบบสนุกมาก จะว่ายังไงดีคือมันมีความเรียลด้วยผสมกับการต่อสู้ในซีจีซึ่งผมว่าตรงนี้ทำออกมาได้ดีกว่ามาตรฐานของหนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นที่ดูจึงทำให้ดูได้ลื่นไหลมาก การเล่าเรื่องราวความเป็นมาให้คนดูได้รู้จักกับอาจิน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องอื่นคงจะยากที่จะเข้าใจความเป็นมาของตัวละครแต่ในเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดี ค่อย ๆ เล่าเรื่องราวให้เข้าใจภูมิหลังของตัวละครหลาย ๆ ตัว การดึงอารมณ์ร่วมรวมถึงการต่อสู้กับศัตรูที่มีพลังเหมือนกันก็ทำให้ได้คิดตามไปด้วยว่าจะเอาชนะยังไง จนสุดท้ายจริง ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกตดี ๆ ก็แทบจะมองข้ามไปเลย แล้วตอนไปดู โรงแถวบ้านก็มีแค่พากย์ไทย แต่เสียงพากย์ออกมากลับโอเคมาก โดยเฉพาะตัวของ ซาโต้ ทาเครุ ที่เคยแสดงหนังหลายเรื่องแต่แจ้งเกิดด้วยซีรี่ย์คาเมนไรเดอร์เดนโอ แล้วได้คนพากย์คนเดิมอย่าง คุณหนึ่ง ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี มาพากย์เสียงให้ คือดูแล้วชอบเลย รวมถึงการแคสนักแสดงที่สมบทบาทและเพลงประกอบฉากที่ออกมาใช้ได้ ก็สามารถทำให้เราสนุกไปกับหนังเรื่องนี้มาก ๆ
แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ชอบ คือบางส่วนจริง ๆ ในเรื่องของพลังสแตนด์ หรือในเรื่องเรียกว่า อสูร ที่ออกแบบมาได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (แต่ตามหนังสือต้นฉบับถือว่าแทบจะตรงเป๊ะ) และเพลงประกอบที่เป็นเพลง EDM ซึ่งมักจะมาในตอนต่อสู้ บางช่วงก็เข้ากันดีนะ แต่บางครั้งก็ขัด ๆ หูเหมือนกัน และอีกส่วนที่ยังค้างคาใจของเรื่องก็เป็นฉากจบปลายเปิดที่ให้คนดูไปคิดต่อเองอีกหน่อย ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีภาคต่อมั๊ย เพราะไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาไม่รู้เนื้อเรื่องมาก่อน ตัวละครบางตัวก็ออกมาใช้ไม่คุ้มค่า และความเก่งของพระเอกที่อยู่ดี ๆ ก็เทพขึ้นมาแบบเฉย ๆ จากที่ไม่เคยมาก่อนก็อาจจะทำให้ขัดใจเล็กน้อย รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษอย่าง Leon S. Kennedy ที่ออกมาโชว์ความโหดแค่นิดเดียว (ไม่เกี่ยว!!) แต่เนื่องจากโดยรวมมันออกมาดีมาก จึงทำให้มองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้
ถ้าหากว่าเพิ่มลดอะไรได้ คงอยากให้เพิ่มในส่วนของฉากแอ๊กชั่นของตัวพระเอกเพิ่ม แต่หลัก ๆ ของเขาคือ การวางแผน รวมถึงเพิ่มการแนะนำความสามารถของอสูรแต่ละตัวเพิ่ม เพราะในเรื่องนี่คือเรียกออกมาแต่ไม่รู้ว่าแต่ละตัวมีความสามารถเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และในบางฉากที่อยากจะเปลี่ยนเพลง EDM เป็นเพลงอื่นที่เข้ากันมากกว่านี้ แต่โดยรวมโอเคแล้วล่ะ เพิ่มลดประมาณนี้น่าจะโอเค
สำหรับเรื่องอาจิน ผมว่าเป็นหนัง Live Action สายบู๊ที่มีการนำเข้ามาฉายในไทยที่ดีที่สุดในปีนี้เลยครับ ถ้าใครมีโอกาสแนะนำให้ลองเข้าไปดู คุณอาจจะชอบเรื่องนี้หรือถ้าเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้ว ยิ่งต้องไปดู แต่ถ้าเด็ก ๆ จะไปดูก็พาผู้ใหญ่ไปดูด้วยเพราะในเรื่องฉากรุนแรงค่อนข้างจะเยอะ และยังมีการแฝงเรื่องราวจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในบางมุมที่เราอาจไม่ได้เห็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับผิดชอบ การช่วยเหลือ การแบ่งแยกเพียงเพราะแตกต่าง และอีกหลาย ๆ อย่างที่คุณต้องไปดูให้ได้โดยเฉพาะน้องพระเอกน่ารักมากครับ (หลังจากแสดงเรื่องนี้เธอก็ไปแสดงเป็นนางเอก Kimi no Suizo wo Tabetai) และตัวละครแต่ละตัวก็มีเสน่ห์ให้เราได้จดจำ ส่วนตัวให้ 9/10 ใครไปดูมาแล้วชอบตรงไหนรู้สึกยังไงก็ลองมาเล่าให้ฟังกันหน่อยนะ
(เรื่องนู้นยิ้มเก่ง เรื่องนี้เลยไม่ค่อยยิ้ม 5555)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พูดถึงเรื่องนั้นก็อยากให้ลองไปอ่านเรื่องนั้นดูนะ เผื่อว่าจะชอบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น