The Mummy : เดอะมัมมี่

The Mummy : The first avenger ไม่ใช่ดิ the first monster

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน Dark Universe จักรวาลอสุรกายหรือสัตว์ประหลาดสักอย่างนึงของ universal ที่ตอนแรกมีแผนที่จะเริ่มตั้งแต่ Dracula untold แต่ถูกล้มเลิกไปและนำเรื่องราวของ Mummy มาเป็นเรื่องราวแรกของจักรวาลนี้แทน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในอียิปต์ยุค 5000 ปีก่อน เจ้าหญิงอดีตว่าที่ราชินี "อามาเน็ท" ได้ทำข้อตกลงกับ "เซท" เทพแห่งความตาย เพื่อสิทธิและพลังอำนาจในการแย่งชิงบัลลังก์อียิปต์ โดยแลกเปลี่ยนกับการอัญเชิญเทพเซทมายังพื้นโลก แต่หลังจากที่ลอบสังหารพ่อผู้เป็นฟาโรห์ แม่ และน้องชายของตร ก็ถูกจับได้และถูกนำมาทำเป็นมัมมี่ทั้งเป็นก่อนจะผนึกไว้และลบตัวตนเธอออกจากหน้าประวัติศาสตร์ ลบเรื่องราวเพื่อไม่ให้ใครรู้ ก่อนที่ อีธาน ฮันท์... ผิดเรื่อง ต้องเป็น "นิค มอร์ตั้น" ทหารและหัวขโมย จะไปเจอโลงศพที่ผนึกอามาเน็ทไว้ และเกิดเหตุการณ์ประหลาด ๆ หลายอย่าง รวมถึงการที่เขากับอามาเน็ทสามารถเชื่อมถึงกันได้ เหตุใดนิคจึงรอดจากเครื่องบินตก ทำไมเขาจึงถูกดึงดูดให้เข้าหาอามาเน็ท ไปลองดูใน The mummy ภาค 2017

ถ้าคุณเอา The Mummy ภาคนี้ ไปเทียบกับ The Mummy ในหนังปี 1999 บอกเลยว่ามันคนละอย่างกัน ไม่ต้องไปเทียบหรอก อย่างในปี 1999 เป็นเรื่องของการตามหาขุมทรัพย์ และการหาวิธีคลายคำสาปต่าง ๆ แต่ในภาคนี้เป็นการต่อสู้ของผู้มีพลังพิเศษที่มาในรูปแบบของสัตว์ประหลาด พลังที่เหนือมนุษย์อะไรพวกนี้มากกว่า จะเน้นไปที่ตำนานกับความเชื่อประมาณนี้ และเป็นหนังที่จะมีการเชื่อมโยงกับเรื่องอื่น ๆ ในอนาคต เพราะงั้นก็ต้องเข้าใจในตัวหนังที่จะสื่อออกมาก่อน
แต่ถ้าหากจะให้เทียบก็น่าจะเทียบกับพวกหนังที่เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลหนังอื่น ๆ และมีลักษณะคล้าย ๆ กันอย่างพวก MCU หรือ DC มากกว่า

สิ่งที่สัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้เหมือนกับเราได้ดูหนังหลาย ๆ เรื่องนะ แบบความรู้สึกเหมือนดู Mission Impossible ด้วย Indiana Jones ด้วย อารมณ์หนังผีเล็ก ๆ และตัวร้ายแบบมาร์เวลหน่อย ๆ และตัวเอกที่แม้จะอยู่ในจักรวาล Dark Universe แต่ก็ไม่ใช่ Dark Monster และด้วยสเกลพลังที่เปิดตัวมาแบบมหาศาลแล้ว ถ้าตัวต่อไปออกมาพลังด้อยกว่านี่จบเลยนะ จะหาตัวอะไรมาล้มเทพล่ะครับ อย่างในหนังเรื่องก่อนที่โดนตัดทิ้งอย่าง Dracula Untold เนี่ยอาจจะเพราะสเกลพลังมันหลุดไปจนผมคิดว่าทางค่ายที่ต้องการจะสร้างแวนเฮลซิ่งขึ้นใหม่เนี่ยคิดไม่ออกว่าจะหาวิธีตายยังไงให้แดร็กคูล่า จนต้องตัดทิ้งไปเพื่อวางโครงสร้างใหม่ แต่ The Mummy กลับวางพลังไว้สูงมาก ๆ ซึ่งอาจจะทำให้ต้องคิดหนักเลยว่าการจะนำเสนอเรื่องต่อไปควรจะนำเสนอเรื่องอะไร

ในส่วนของตัวหนังผมว่ามันไม่ได้เข้าใจยาก แต่บางอย่างอาจจะต้องรอเวลาที่มันจะเฉลยออกมาในหนังภาคต่อ การนำเสนอเรืาองราวความรู้สึกของคู่พระนางก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะง่ายไป เหมือนละครไทยไปนิด และตัวร้ายที่ค่อนข้างจะเหมือนหนังแนวฮีโร่อย่างที่บอกคือปูบทมายิ่งใหญ่ตระการตา กลับพลาดท่าเอาง่ายเกินไป แต่สิ่งที่ทำให้น่าสนใจคือองค์กรในเรื่องที่ชื่อ "โพรดิเจียม" ซึ่งน่าจะเป็นตัวเชื่อมของจักรวาล Dark Universe ไว้ และมี Easter Eggs ของหนังค่าย Universal ซ่อนอยู่ในหนังค่อนข้างพอสมควรเลย แฟนหนังค่ายนี้รบกวนมาบอกทีมีอะไรบ้าง

หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ค่อนข้างดีในระดับนึงของ Dark Universe เลย แต่ก็ยังไม่ค่อยทำให้รู้สึกอยากติดตามต่อสักเท่าไร แต่มันก็ยังน่าสนใจอยู่ว่าเรื่องต่อไปจะนำเสนอออกมาแบบไหน ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหนังที่สามารถดูติดต่อกันได้และเชื่อมโยงเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ได้ และเบื่อจักรวาลหนังฮีโร่แล้ว อยากได้พวกที่ไม่ใช่คนบ้างก็แนะนำให้ไปดู นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งให้ 6.5/10 ไปแต่ก็รอดูผลงานต่อไปนะครับ

ปล.โอเวอร์โซลยังไม่เสถียร ให้เวลาพระเอกเราไปฝึกแปป
ปล.2 ช็อตดำน้ำนึกว่ามิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล โคตรนาน
ปล.3 ถ้าขโมยอย่างเดียวและไม่ซน เรื่องจบตั้งกะ 5 นาทีแรก
ปล.4 สำหรับหลาย ๆ คนที่ได้ยินมาว่าเรื่องนี้ไม่สนุก มันขึ้นอยู่กับความชอบหลาย ๆ อย่าง แนะนำให้ไปตัดสินด้วยตาตัวเองก่อนที่จะไปฟังใครว่าเรื่องนี้ดีหรือไม่ดี

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ว่าง ๆ ก็มานั่งอ่านเรื่องราวของ 4 ทันตะหัวใจดนตรี หนังที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจมาก ๆ กันดู

http://tellmeifyouwant.blogspot.com/2017/06/kiseki-sobito-of-that-day-greeeen-4.html