Legends and Fantasies : Music From Anime and Video Games
Legends and Fantasies : Concert ดี ๆ By TPO
เชื่อว่าการฟังเพลง Orchestra ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าถึงง่าย ๆ สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะด้วยรูปแบบของเพลงที่ไม่ได้ทำออกมาเพื่อเจาะตลาด และการบรรเลงที่หลาย ๆ เพลงค่อนข้างจะฟังยาก ทำให้เวลาที่มีคอนเสิร์ต Orchestra ออกมา ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจในเรื่องอย่างนี้จริง ๆ คงจะต้องยกมือบอกลากันเลย แม้กระทั่งนักดนตรีหลาย ๆ คนก็ไม่ได้ชอบที่จะฟังวงดนตรีที่มาบรรเลงอย่างนี้ แต่ในคอนเสิร์ตนี้มันต่างออกไป ที่การจับ Theme เพลงในการบรรเลงคราวนี้ ไม่ได้มีการจับมาทำและบรรเลงในรูปแบบ Orchestra ในไทย ซึ่งเป็น Theme ที่เข้าถึงง่าย และเชื่อว่าหลาย ๆ คน เติบโตมากับ "เกมและอนิเมชั่น" ซึ่งมีทั้งเก่าและใหม่ ให้รับชม
เชื่อว่าการฟังเพลง Orchestra ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าถึงง่าย ๆ สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะด้วยรูปแบบของเพลงที่ไม่ได้ทำออกมาเพื่อเจาะตลาด และการบรรเลงที่หลาย ๆ เพลงค่อนข้างจะฟังยาก ทำให้เวลาที่มีคอนเสิร์ต Orchestra ออกมา ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจในเรื่องอย่างนี้จริง ๆ คงจะต้องยกมือบอกลากันเลย แม้กระทั่งนักดนตรีหลาย ๆ คนก็ไม่ได้ชอบที่จะฟังวงดนตรีที่มาบรรเลงอย่างนี้ แต่ในคอนเสิร์ตนี้มันต่างออกไป ที่การจับ Theme เพลงในการบรรเลงคราวนี้ ไม่ได้มีการจับมาทำและบรรเลงในรูปแบบ Orchestra ในไทย ซึ่งเป็น Theme ที่เข้าถึงง่าย และเชื่อว่าหลาย ๆ คน เติบโตมากับ "เกมและอนิเมชั่น" ซึ่งมีทั้งเก่าและใหม่ ให้รับชม
สถานที่จัดงานในครั้งนี้ ถ้าใจไม่ได้อยากมาจริง ๆ คงเลือกที่จะนอนอยู่บ้านดีกว่า เพราะการเดินทางของหลาย ๆ ท่าน อาจจะไม่สะดวกนัก แต่ถ้าไม่จัดที่นี่ก็ไม่รู้จะไปจัดที่ไหนเช่นกัน โดยงานนี้จัดที่ Prince Mahidol Hall หรือ มหิดลสิทธาคาร อาคารที่เป็นได้ทุกอย่างทั้งรับปริญญา ใช้ประชุม แสดงละคร รวมถึงแสดงดนตรี ตัวอาคารอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งถ้าเดินนี่น่าจะขาลากอยู่ แต่ทางมหาวิทยาลัยก็มีบริการรถวนรอบมหาลัยอยู่ด้วยนะ
คอนเสิร์ตครั้งนี้มีจัด 2 วันคือวันศุกร์ที่่ 23 และวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน ซึ่งได้ไปดูวันเสาร์ที่ 24 ไม่รู้ทำไม่รถติดมาก จนไปไม่ทันเวลาพูดคุยก่อนการแสดง แต่พอมาถึงบรรยากาศดีมากครับ มองไปทางไหนผู้คนก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้าไปรับชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ มีการแต่งชุดคอสเพลย์มาด้วยเพื่อเป็นสีสันของงาน ให้ตรงกับ Theme อนิเมะ (เห็นแต่คิริโตะแฮะ) ด้านหน้างานก็จะมีการโปรโมทงานอื่น ๆ ที่จะมีจัดในอนาคต ก็อยู่ที่ใครสนใจไปดูนะครับ พอเข้ามาในฮอลล์ก็กว้างมากสมเป็นฮอลล์ที่เหมาะสำหรับการแสดงดนตรีจริง ๆ คนเต็มเกือบทุกที่นั่ง และสำคัญสุดเป็นมารยาทในการดูคอนเสิร์ต Orchestra คือไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสารหรือการทำอะไรก็ตามที่จะรบกวนสมาธิของนักดนตรีบนเวทีนะครับ
ในการแสดงตามตารางแบ่งเป็น 2 ช่วง ในแต่ละช่วงก็จะมีการแบ่งลักษณะเพลงตามนี้
ช่วงแรก ความรู้สึกโดยรวมของผมคือ เหมือนเรากำลังสู้กับบอสมอนสเตอร์อยู่ และมีช่วงที่ทำให้คิดถึงบ้านบ้าง ได้รู้สึกถึงความพัฒนาอะไรบางอย่างบ้าง ต้องตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างที่สำคัญ แต่หลัก ๆ คือเป็นช่วงที่ตึงมาก ๆ รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตยังไงยังงั้น โดยถ้าเจาะเป็นฉาก ๆ เลยก็จะเป็น
Prologue : อารัมภบท
เพลงที่นำมาบรรเลงคือ Liberi Fatali เพลงประกอบวีดิโอเกม Final Fantasy VIII ถ้าเอาตามสูจิบัตร เป็นเพลงที่ต้องการจะสื่อถึงเด็ก ๆ ที่ถูกเลือกโดยโชคชะตา แต่แบบอารมณ์ของผมนี่แบบนี่กูเจอบอสเหรอวะ 55555 โคตรตึง แต่ก็ไม่ได้ตึงมากนะ เป็นบรรยากาศแบบต้องเจออะไรที่สำคัญมาก ๆ แน่
ตัวอย่างเพลง Liberi Fatali เผื่ออยากฟัง
Swords and Magic : เวทย์และศัสตรา
โดยเพลงที่จะนำมาบรรเลงจะเป็นเพลงจากวิดีโอเกม อนิเมะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ นักรบ ดาบ และเวทย์มนตร์ โดยเพลงที่นำมาบรรเลงในช่วงนี้คือ
1. Proof of a Hero เพลงหลักจากเกมซีรี่ย์ดังอย่าง Monster Hunter เพลงนี้มารู้สึกอารมณ์ตึงจากตอนแรกลดลงไปเยอะ แต่ได้อารมณ์ของการผจญภัยมาแทนอย่างเต็มสูบ อารมณ์แบบกำลังเปิดเกมและการผจญภัยครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเลยทีเดียว ฟังเพลงนี้แทบอยากจัดปาร์ตี้ไปลงดันเลยครับ
Proof of a Hero เผื่อฟัง ๆ
2.Sword Art Online Medley. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร โดยมีการนำเพลงหลัก ๆ ที่ได้ยินบ่อย ๆ ในเรื่องมาเรียบเรียงต่อกันเป็นเพลง Medley โดยความรู้สึกที่ฟังเหมือนกำลังจะออกไปสู้รบกับศัตรูที่เข้ามา และเป็นเพลงที่ฟังง่ายเลย อาจจะด้วยความคุ้นชินกับตัวอนิเมะอยู่แล้วเนอะ โดยขอเอาตัวอย่างมาเพลงเดียวละกัน
Luminous sword 1 ในเพลงที่นำมาใช้ในเพลง Medley นี้
3.Fairy Tail Song เพลงจากอนิเมะเรื่อง แฟรี่เทล โดยมีการนำหลาย ๆ บทเพลงที่เป็นเพลงธีมของเรื่องมาเรียบเรียง โดยในช่วงแรกให้ความรู้สึกเป็นเหมือนการเปิดม่านของการผจญภัย ก่อนที่จะไปเจออุปสรรคหลาย ๆ อย่าง และได้รับพลังที่จะใช้ในการคลี่คลายปัญหาได้ ก็ขอยกมาสักเพลงนะ ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้เรียบเรียงออกมาได้กึ่ง ๆ ญี่ปุ่นและคลาสสิคเลยล่ะ
Dragon Force Ost จาก Fairy Tail
4.Naruto Shippuden Song เพลงจากอนิเมะเรื่อง Naruto Shippuden ที่มีการนำเพลงธีมในเรื่องหลาย ๆ เพลงมาเรียบเรียง โดยช่วงแรกนี่อารมณ์เหมือนได้กลับไปดูการ์ตูนนินจาเรื่องนี้เลย ต่อมาก็ได้เจอกับภารกิจต่าง ๆ และคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากขึ้น จนเมื่อวงได้บรรเลงไปเรื่อย ๆ จะมีท่อนที่ทำให้เราได้คิดถึงบ้านเลยล่ะ ก่อนที่จะกลับมาสู่อารมณ์แบบชิบหายละ ศัตรูบุกบ้านอีก ก่อนที่จะจบองค์นี้ไปด้วยความรู้สึกที่ทุกอย่างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง โดยดนตรีเพลงนี้่ให้อารมณ์ความเป็นญี่ปุ่นมากกว่าเพลงแฟรี่เทลอีกอาจด้วยตัวเรื่องเหมาะกว่าและทำนองที่สามารถเรียบเรียงให้เป็นอย่างงั้นได้ง่ายกว่าด้วย
Naruto Shippuden "Home Coming" 1 ในเพลงที่นำมาใช้ในเพลงชุดนี้
หลังจากจบเพลงชุดของนารูโตะก็เป็นเวลาพักก่อนเริ่มการแสดงต่อไปเป็นเวลา 15 นาที ที่พอออกมาแต่ละคนก็พูดถึงเพลงที่ได้ฟังกันไปและพูดถึงบทเพลงที่รอที่จะได้ฟังมากที่สุดในคอนเสิร์ตนี้ ห้องน้ำก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ก่อนที่การแสดงจะเริ่มทุกคนก็ได้กลับเข้าไปนั่งในฮอลล์และเริ่มชุดการแสดงต่อทันทีหลังครบ 15 นาที
Hymns of the Adventurers : บทเพลงแห่งนักเผชิญภัย
ช่วงนี้เป็นช่วงเพลงที่ทำให้รู้สึกจริง ๆ ว่า นี่แหละการผจญภัยที่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยช่วงนี้มีแค่ 2 เพลง แต่เป็น 2 เพลงที่ยาวมากกกก แต่ให้ความรู้สึกผจญภัยจริง ๆ
1.The World of Adventurers เพลงจากอนิเมะที่ในส่วนของมังงะผู้เขียนพึ่งกลับมาเขียนตอนล่าสุดไปเมื่อไม่นานมานี้ Hunter x Hunter นั่นเอง โดยเพลงนี้ให้ความรู้สึกของการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เหมือนเริ่มเรื่องในปราสาทที่อลังการใหญ่โตมาก ๆ ก่อนที่จะส่งไปที่เพลงต่อไป
The World of Adventurers เพลง Theme ของ Hunter x Hunter
2.Symphonic Suite "Hunter x Hunter" เพลงชุดนี้มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 17 นาที แต่ประกอบไปด้วยเพลงทั้งสิ้น 7 เพลงนับตั้งแต่ภาค Greed Island มาจนถึงภาค Chimera Ant และลากยาวมาจนถึงการเลือกตั้งของสมาคมฮันเตอร์ โดยส่วนใหญ่มาจากภาค Chimera Ant และพอทำออกมาและได้ฟังแล้วได้ความรู้สึกเหมือนเพลงโบสถ์อยู่ แต่ก็ให้ความรู้สึกลุ้นระทึกในทุก ๆ ช่วงของเพลงนี้เลยทีเดียว โดยขอยกมาสักเพลงเป็นตัวอย่างเหมือนเคย
Last Mission เพลงสุดท้ายของเพลงชุดนี้
The Journeys : การเดินทาง ถึงช่วงที่เพลงมีอารมณ์ที่หลากหลายที่สุดในคอนเสิร์ตนี้แล้ว ช่วงที่ได้ออกเดินทางไปกับบทเพลงจริง ๆ ซึ่งเหมือนกับการเดินทางไปในหลากหลายที่ โดยมีเพลงทั้งสิ้นในช่วงนี้ 4 เพลง
1.We Are! เพลงที่ทำให้ผมอยากมาดูคอนเสิร์ตครั้งนี้เลยครับ กับเพลงประกอบเพลงแรกของอนิเมะเรื่อง One Piece ที่ตอนแรกนึกว่าจะทำออกมาเหมือนกับต้นฉบับเป๊ะ ๆ แต่เขาทำมาในรูปแบบของวง Orchestra แล้วก็ยังได้ความตื่นเต้นของการออกผจญภัยอยู่แต่ก็มีความรู้สึกว่าฟังง่าย รื่นหูมากกกก สมเป็นเพลงที่รอคอยจริง ๆ
We Are! ต้นฉบับ
2.Scar of Time เพลงเปิดวีดิโอเกม Chrono Cross ที่เปิดมาแบบสบาย ๆ อารมณ์ช่วงแรกเหมือนฟังเพลงช่วงกลางคืนชิลล์ ๆ ก่อนเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและสนุกสนาขึ้นด้วย Percussion หลาย ๆ ชิ้น
Scar of Time เพลงจากเกม Chrono Cross
3.Kiki's Delivery Service เพลงจากอนิเมชั่นของสตูดิโอชื่อดัง Studio Ghibi โดยชื่อเรื่องนั้นตามชื่อเพลงเลยฟังสบาย ๆ มาก บรรยากาศเหมือนเดินเล่นอยู่ในเมือง ไม่รู้ทำไมฟังเพลงนี้แล้วอบอุ่นใจดี เพลินมาก ๆ ฟังไปฟังมาก็เหมือนบรรยากาศในร้านอาหารด้วย
Kiki's Delivery เพลงนี้ฟังแล้วผ่อนคลายสบายใจมาก
4.One Summer's Day เพลงประกอบอนิเมชั่น Spirited Away หนังอนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลมามากมาย เป็นเพลงที่ฟังง่ายมาก ๆ อารมณ์เหมือนฟังเพลง Pop เวอร์ชั่นบรรเลง เหมือนเพลงรัก ที่ฟังแล้วย้อนกลับไปคิดถึงอะไรบางอย่างที่สำคัญกับเรา คิดถึงบรรยากาศเดิม ๆ ช่วงเวลาเดิม ๆ ที่อยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ้งมากเพลงนี้ โดยเวอร์ชั่นนี้ให้เปียโนเป็นตัวเด่นกลุ่ม Orchestra คอยประกอบไปจึงทำให้ไพเราะมาก ๆ
One Summer's Day เอา Version ร้องไปลองฟังดูนะ
Death and Angels : คำพิพากษา หลังจากฟังช่วงผจญภัยอย่างสนุกสนาน ซึ้ง เศร้า เคล้าอารมณ์ไปก็กลับมาสู่บรรยากาศที่ฟังแล้วรู้สึกตื่นตระหนก วุ่นวาย ชิบหายบอสมาอีกแล้ว ซึ่งเพลงในช่วงนี้ค่อนข้างจะฟังยากอยู่พอสมควร แต่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่มาก
1.Dies Irae บทเพลง Requiem ของคีตกวีชาวอิตาลี เพลงท่อน Dies Irae นี้ถูกนำมาใช้เป็นดนตรีประกอบ Trailer ของเรื่อง The end of Evangelion ฟังแล้วแบบความรู้สึกคือเหมือนแบบช่วงสงครามอ่ะ แล้วทุกอย่างกำลังจะถึงจุดจบ แต่เพลงนี้ค่อนข้างฟังยากอยู่
Dies Irae เพลงที่สำคัญขนาดถูกใส่ในซีดีเพลงรวมดนตรีประกอบ Evangelion 2 อัลบั้มเป็นอย่างน้อย
2.One-Winged Angel เพลงประจำตัวของบอสใหญ่ในเกม Final Fantasy VII อย่าง Sephiroth ซึ่งรู้สึกได้เลยว่า Sephiroth is Coming แสดงถึงความโกรธ ดุดัน ของ Sephiroth ได้เป็นอย่างดี และเพลงนี้ถูกประพันธ์ขึ้นทีละส่วนและนำมาจัดวางสลับกัน แต่ก็ยังคงภาพของ Sephiroth ไว้ในบทเพลง
One-Winged Angel เพลงประจำตัว Sephiroth ที่เพลงนี้มีการเล่นกับคนดูด้วย
Epilogue : ปัจฉิมบท เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตนี้แล้วกับบทเพลงที่มาจากเกมที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยโดยเริ่มต้นจากเพลง Halo Theme จากเกม Halo โดยมาในรูปแบบมาร์ชก่อนที่จะออกไปทางเต้นรำได้ และส่งต่อไปให้กับ Coronation และ Baba Yetu จากเกม Civilization IV ที่ให้ความรู้สึกแบบออกไปทางพิธีกรรมอะไรสักอย่างอยู่ ก่อนจะกลับไปสู่อารมณ์แบบตอนเริ่มกับเพลง Bounty Hunter Theme จากเกม Advent Rising และปิดท้ายด้วยความอบอุ่นจากเพลง Hikari เพลงจากเกม Kingdom Hearts
Hikari จากเกม Kingdom Hearts นะ
หลังจากการแสดงได้จบลงเสียงปรบมือก็ดังขึ้น พร้อมกับเพลง Surprise ที่ไม่นึกว่าจะได้ฟังในคอนเสิร์ตนี้ เป็นบทเพลง Medley จากอนิเมะชื่อดังจากในอดีตที่มีการนำกลับมาทำใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งในตอนแรกก็คิดเสียดายอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่มีเพลงพวกนี้ในโชว์นี้นะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากลองฟังสด ๆ ในรูปแบบ Orchestra ที่ไทยเหมือนกัน พออินโทรเพลงขึ้นนี่ถึงกับขนลุก น้ำตานี่คลอเลย ทุกคนในฮอลล์ก็พร้อมใจกันปรบมือแบบไม่ได้นัดหมายพร้อมส่งเสียงร้องแสดงความยินดีแบบ คิดถึงเพลงพวกนี้มาก และได้มีโอกาสฟังในรูปแบบที่ไพเราะขนาดนี้ด้วยนะ อื้อหือ เป็นเพลงจากซีรี่ย์ Digimon Adventure โดยทำ Medley 3 เพลงด้วยกัน โดยเริ่มจาก Brave Heart ต่อมาด้วย Break Up และปิดท้ายด้วยเพลง Butterfly
Break Up จาก Digimon Adventure 02 ผมนี่ออกอาวุธเลยครับ
และก็เข้าสู่ช่วงมอบดอกไม้ให้กับ Conductor และ Arranger ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยเพลงที่คุ้นหูจากเรื่อง Totoro ที่ก็ทำให้ผู้ชมทุกคนได้อบอุ่นใจก่อนลาจากกันไป
My Neighbor Totoro เพลงสุดท้ายและท้ายสุดของคอนเสิร์ตนี้
ในส่วนของความประทับใจนั้น เชื่อว่าทุกคนน่าจะประทับใจกับคอนเสิร์ตนี้มาก ไม่มากก็น้อย โดยส่วนตัวรู้สึกประทับใจมาก ยิ่งช่วงเพลงนอกลิสต์นี่ทำเอาน้ำตาคลอเลยทีเดียว แต่ในระหว่างที่เล่นบางช่วงอาจด้วยโน้ตที่ค่อนข้างสูงทำให้ฟังไม่ค่อยรื่นหูเท่าไหร่ ด้วยความที่เล่นเป็นเวลาอาจทำให้นักดนตรีล้า และปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่โดยรวมถือว่าทำออกมาได้โอเคมากครับ รู้สึกว่าจะมีบันทึกเสียงการแสดงมาจำหน่ายย้อนหลังด้วยนะ ถ้าใครที่เป็นแฟน ๆ ของเกมและการ์ตูนแล้ว ไม่อยากให้พลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้มาก ๆ ก็อยากเอาประสบการณ์นี้มาเล่าให้ฟังนะครับ เผื่อใครอยากไปแต่ไม่ได้ไป
ที่สุดของคอนเสิร์ตนี้ Brave Heart
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทำไมหนังภาคนี้หลาย ๆ คนถึงว่าแป้ก มาลองดูมุมมองนี้มั่ง ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น