คนผ่านมาเล่า

Uchiage Hanabi, Shita Kara Miru ka? Yoko Kara Miru ka? : ผมว่ากลมนะ หรือมันแบนล่ะ หลังจากที่ผ่านหนังที่ดูง่าย เรื่องนี้ก็เป็นหนังที่ไม่ค่อยโปรโมท ไม่นำเสนอ ทำให้นอกจากโรงฉายจะน้อยแล้วคนที่ไม่ได้ติดตามมาก็จะไม่รู้ว่าเรื่องนี้เข้า แถมยังค่อนข้างจะดูยาก เมื่อเทียบกับการ์ตูนอนิเมชั่นจากแดนอาทิตย์อุทัย แต่ก็ไม่ใช่ว่าดูยากนักแค่เราอาจจะได้อะไรจากเรื่องนี้ไม่เหมือนกันเลย เรื่องนี้มาจากช่วงตอนหนึ่งของบทละครโทรทัศน์ชุด If แล้วถูกรีเมคมาเป็นอนิเมชั่น โดยเรื่องราวคร่าว ๆ ก็เกิดขึ้นระหว่างเพื่อน 2 คน โนริมิจิ และ ยูซึเกะ กับคำถามที่ถามมาว่า "ดอกไม้ไฟดูเป็นทรงกลมหรือแบนถ้าหากว่ามองจากด้านข้าง" จึงได้ไปลองหาคำตอบ พร้อมกับที่ นาซึนะ เด็กสาวในห้องเรียนก็ได้ชวนให้ทั้งคู่ไปดูดอกไม้ไฟ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่านาซึนะ หนีออกจากบ้าน มา แล้วคำตอบของเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร ก็ลองไปติดตามกันได้ในโรงนะ ในส่วนที่ชอบของหนังเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องของภาพ สี ที่ค่อนข้างจะสวยเลย เพลงประกอบที่ฟังได้สบาย ๆ เพราะใช้ได้ และในส่วนของเรื่องราวที่ค่อนข้างจะแฟนตาซี ก็ค่อนข้างจะทำให้เราดูเพลิน ๆ

The Greatest Showman : ถ้าเรารู้จักสิ่งนั้น เราก็จะมีความสุขได้ไม่ยาก จัดว่าเป็นช่วงที่หนังดี ๆ เข้าโรงมาอย่างมหาศาลให้เราได้เลือกดูจริง ๆ สำหรับช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ หลาย ๆ คนที่มีที่ไปเที่ยวก็ดี แต่หลาย ๆ คนที่ไม่มีที่ไป (เช่นผม) ก็คงไปจบที่บ้านไม่ก็โรงหนังเป็นแน่ ซึ่งช่วงนี้ก็กะว่าจะไปดูหนังยาว ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก เรื่องนี้เป็นเหมือนเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากประวัติของคนช่างฝันที่ได้สร้างสรรค์โชว์ที่อลังการและสุดแสนประทับใจ พี.ที.บาร์นัม ผู้ที่คิดโชว์สุดแสนประหลาดและโด่งดังไปทั่วโลก เรื่องย่อก็น่าจะเป็นเหมือนกับการเล่าประวัติของคน ๆ นี้ให้ได้ฟังกันนั่นแหละ เพียงแต่เรื่องราวจะถูกนำเสนอในรูปแบบของมิวสิคัล เล่าชีวิตของคนผ่านท่วงทำนองเพลง จากคนที่ไม่มีอะไร สร้างเนื้อสร้างตัวจนยิ่งใหญ่ และสูญสิ้นทุกอย่างอีกครั้ง เราจะได้เห็นวัฏจักรชีวิตอย่างนี้ และความอบอุ่นใจ ความเท่าเทียมที่ไม่แบ่งแยก รวมถึงความคิดหลากหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสดูหนังที่เป็นมิวสิคัลจริง ๆ ปกติไม่ค่อยได้ดูแนวนี้ แ

Jumanji Welcome to the Jungle : เสียงกลองรบดังสนั่น  เหล่าชายฉกรรจ์ปกปักษ์ปฐพี เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจและเข้ามาได้ถูกช่วงจังหวะเวลาที่กำลังต้องการหาอะไรที่สร้างเสียงหัวเราะและความบันเทิงในช่วงเข้าปีใหม่ และนี่ก็เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปกว่า 22 ปี  กับ Jumanji ที่ในตอนนั้นก็สร้างความสนุก ลุ้นระทึกให้กับเรา ๆ มาแล้ว มาตอนนี้จะกลับมาเป็นยังไงกันก็ลองไปรับชมกันดูนะครับ เรื่องราวย่อ ๆ ของภาคนี้ นับว่าเป็นภาคต่อที่ต่อจากเมื่อปี 1995 จริง ๆ เมื่อบอร์ดเกมอาถรรพ์ Jumanji ได้กลับมาอีกครั้ง โดยอัพเกรดตัวเองจากเกมกระดานกลายมาเป็นตลับเกมคอนโซล และเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจากในครั้งอดีตที่จะปล่อยเหล่าสัตว์ต่าง ๆ นา ๆ ที่อยู่ในเกมกระดานมาสู่โลกความเป็นจริง แต่ในครั้งนี้กลับกันเป็นการดึงคนเข้าไปสู่โลกแห่ง Jumanji โดยเด็กวัยรุ่นมีปัญหา 4 คน จำเป็นจะต้องเอาชนะเกมนี้เพื่อหาทางกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้ได้ สำหรับเรื่องนี้แล้วก็ทำให้เราคิดถึงหนังต้นฉบับสมัยนั้น ในส่วนที่เราชอบมันเริ่มตั้งแต่เข้าสู่โลกแห่งเกมใน Jumanji แล้ว เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งการผจญภัยที่สนุกและเฮฮากั

Kamen Rider OOO : เมื่อความโลภใช้ช่วยโลกได้ คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายกัน ความรัก? ความเชื่อ? ความหวัง? ความฝัน? ผิดแล้ว!! สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายและนอกจากนั้นยังทำให้มนุษย์เราพัฒนาอะไรหลาย ๆ อย่างได้ จุดเริ่มต้นมันมาจากสิ่งเล็ก ๆ เพียงอย่างเดียว ที่บางทีมันอาจจะไม่เล็กก็ได้ สิ่งนั้นคือ ความรู้สึกที่ถูกเรียกกันว่า ความโลภ ซึ่งในอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งนี้ก็ยังคงอยู่ในจิตใจเบื้องลึกของมนุษย์ทุกคน และนี่คือเรื่องราวของ Kamen Rider ที่ว่าด้วยเรื่องของความโลภอัน ไร้ที่สิ้นสุด หลังจากที่ปิดเรื่องราวของนักสืบแห่งเมืองสายลมกับ Kamen Rider W ไปแล้ว ก็เป็นการสานต่อตำนานบทต่อไปของเฮย์เซย์เฟสที่ 2 ด้วยประเด็นที่น่าสนใจกับเรื่องของความโลภในใจคนที่บางครั้งเราอาจจะได้เห็นแต่ด้านแย่ ๆ แต่เรื่องนี้ก็นำประเด็นนี้มานำเสนอได้อย่างสนุกและน่าดึงดูดมากทีเดียว เรื่องราวของ Kamen Rider OOO เริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มก้อนแห่งความโลภจากครั้งเมื่อ 800 ปีก่อนที่ถูกเรียกว่า Greeed ได้ถูกปลุกขึ้นมาจากผนึกเพื่อรวบรวมความโลภในใจของมนุษย์และสิ่งที่เรียกว่า Core Medals ของต

Coco : ไม่ได้ร้อง น้ำตามันไหลไปเองง่ะ เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นดี ๆ อีกเรื่องนึงจากค่ายหนังอารมณ์ดี disney pixar ที่หากว่าพูดถึงภาพยนตร์อนิเมชั่นแล้วคงหนีไม่พ้นค่ายนี้ที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมามากมาย ซึ่งปกติตัวผมไม่ค่อยได้ดูภาพยนตร์อนิเมชั่นมากนัก แต่ด้วยโอกาสกับเวลาที่ประจวบเหมาะพอดีทำให้ได้มีโอกาสมารับชมเรื่องราวที่น่าประทับใจเรื่องนี้อีกเรื่อง โดยเป็นเรื่องราวของ "มิเกล" เด็กน้อยที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวช่างทำรองเท้าและมีกฎเหล็กเพียงข้อเดียวเลยคือ "ห้ามยุ่งเกี่ยวอะ ไรกับดนตรีโดยเด็ดขาด" แต่เผอิญเด็กน้อยเจ้ากรรมมิเกลคนนี้ดันรักในการร้องบรรเลงดนตรีอย่างหมดหัวใจ โดยตั้งเป้าจะเดินตามไอดอลของเขา "เออร์เนสโต เดอ ลา ครูซ" ซึ่งได้ลาลับโลกไปแล้ว ซึ่งตัวมิเกลที่ถูกสั่งห้ามเล่นดนตรีก็แอบไปขโมยกีตาร์ที่หลุมศพของเขาในวันประตูนรกเปิดพอดี จึงทำให้เขาโดนคำสาปจนติดอยู่ในโลกของคนตาย เขาจึงต้องหาวิธีกลับไปยังโลกคนเป็นให้ทันเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น โดยมี "เฮกเตอร์" ผีโครงกระดูกกับ "ดันเต้" หมาคู่ใจ และยังต้องทำความเข้าใจกับญาติ ๆ ผู้

Ajin : อมตะ + สแตนด์ Is OP!! ในช่วงนี้เราอาจจะเห็นหนัง Live Action ญี่ปุ่นที่จะสร้างจากการ์ตูนหรือนิยายที่มีเนื้อหาค่อนไปทาง ดราม่า หรือ รักโรแมนติก ซึ่งมีมาฉายในไทยเยอะกว่า Live Action แบบ คลุกฝุ่น ซึ่งหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามาก็มาแบบสนุกบ้างแต่ไม่ค่อยสุด (จากใจผมที่ติดตามเรื่องนั้น ๆ อยู่) และบางเรื่องก็เข้าขั้นแย่เลยก็มี แต่ Ajin จะเป็นอีกเรื่องที่ถ้าคุณได้เข้าไปดู คุณจะได้สนุกและอาจจะได้แง่คิดอะไรบางอย่างกลับไป แม้ว่ามันจะเป็นหนังบู๊ ๆ ที่คนอาจจะไม่ค่อยได้แง่คิดดี ๆ กลับไปเลยก็ตาม เรื่องราวย่อ ๆ ในเรื่องจะเริ่มต้นจากการที่มนุษย์ได้ค้นพบกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถ "ฆ่า" มันได้ มนุษย์ได้ให้ความสนใจและเรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ว่า อาจิน ซึ่งเหล่าอาจินเนี่ยก็แฝงตัวอยู่กับมนุษย์เนี่ยแหละ แทบจะแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นมนุษย์ใครเป็นอาจิน ซึ่งก็ได้มีการตั้งค่าหัวและตามหาเหล่าอาจิน นางาอิ เคย์ พระเอกของเรื่องก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าอาจินเช่นกัน และถูกรัฐบาลจับตัวไปได้ แต่ ซาโต้ อาจินอีกคนนึงก็ได้ช่วยเหลือเคย์เพื่อร่วมกับกลุ่มต่อต้านร

Murder on the Orient Express : ไม่ผิดแน่... คนร้ายตัวจริงก็คือ !! แอ๊ด ปึ้ง!! จากนิยายสืบสวนที่ขายดีสุด ๆ ผลงานของราชินีนิยายอาชญากรรม  อะกาธา คริสตี้ จนกลายมาเป็นหนังโรงให้เราได้รับชมและมีการรีเมคจนมาเป็นเวอร์ชั่นที่กำลังเข้าฉายอยู่นี้ ซึ่งมีหลาย ๆ กระแสตอบรับที่ส่วนใหญ่ออกมาให้ความคิดเห็นไปใน เชิงบวก และนี่ก็จะเป็นการเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกหลังจากได้รับชมเรื่องนี้ (ออกจากโรงมาพิมพ์รู้สึกมันใช้ความคิดในการประมวลผลคำมากไปละ 5555) บอกได้เลยว่ามันต้องใช้ความคิดเยอะถ้าจะตามหนังให้ทันนะ เรื่องราวแน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมซึ่งมันจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใหม่อะไร เว้นเสียแต่ว่ามันเป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นบนขบวนรถด่วนพิเศษที่กำลังเดินทางอยู่โดยมี แอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบชื่อดังร่วมขบวนมาด้วย เขาจึงต้องรับหน้าที่สืบหาความจริงว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้ก่อนที่ขบวนรถจะถึงที่หมาย โดยมีผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น 13 คน ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ และเขาต้องรีบสืบหาความจริงก่อนที่ฆาตกรจะลงมืออีกครั้งนึง ในจุดที่ชอบของเรื่องแนว ๆ นี้เลยคือเรื่องที

Kimi no Suizo wo Tabetai : ตับอ่อนจะเป็นไงก็ช่าง เตรียมตับของคุณไว้ให้พร้อมละกัน จาก Light Novel มาสู่ Live Action ที่มีกระแสตอบรับแซงหนังโทนเดียวกันอย่าง Tomorrow I will Date with Yesterday's you และ 100th love with you ในญี่ปุ่นและที่ไทยก็เริ่มฉายจริง ๆ วันนี้วันแรก ซึ่งหลังจากที่ได้ข่าวว่าจะเข้ามาฉายในไทยหลาย ๆ คนที่เคยได้รับชม 2 เรื่องก่อนหน้านี้มาก็คาดหวังไว้ และหลาย ๆ คนที่รอดูเรื่องนี้ก็ขอบอกได้เลยว่า  ไม่ผิดหวัง  เลยแม้แต่น้อย เนื้อเรื่องย่อ ๆ ก็เป็นเรื่องราวของ " ชิงะ " (น่าจะประมาณนี้ เพราะทั้งเรื่องแทบไม่ได้ยินชื่อเลย) เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ที่ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ยุ่งกับใคร พูดง่าย ๆ ว่าไม่สนใจอะไรเลยหมกตัวอยู่กับหนังสือ แต่ก็ได้มาพบกับ " ยามาอุจิ ซากุระ " เด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นที่ยิ้มแย้ม อารมณ์ดี เป็นมิตรกับทุกคน ดูภายนอกแล้วเธอก็เป็นแค่เด็กสาวธรรมดา ถ้าไม่ติดที่ว่าพระเอกของเราได้ไปรู้ความจริงที่ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านัั้น จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ได้รู้จัก และสนิทกันมากขึ้นแต่สายสัมพันธ์มันไม่ได้ยื้อชีวิตของเธอไว้