The Incredibles 2 : รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2

The Incredibles 2 : 14 ปี แห่งความหลัง

เชื่อว่าทุก ๆ คนที่เคยดู The Incredibles มา จะต้องคิดถึงครอบครัวผู้มีพลังพิเศษที่มาพร้อมกับเพลงธีมที่ไม่ว่าใครที่ได้ยินจะต้องนึกออกทันทีว่ามาจากหนังเรื่องนี้ และการกลับมาหลังจากที่หายไปกว่า 14 ปี ในครั้งนี้พวกเขาจะมาสร้างความประทับใจอะไรให้กับเรากันบ้างมาลองดูกันได้ในโรงภาพยนตร์นะ

เรื่องราวต่อเนื่องมาจากหนังภาคที่แล้วเลย อยากรู้ว่าต่อยังไงไปดูภาคก่อนนะ โดยเรื่องราวคร่าว ๆ ที่ยังส่งผลกระทบต่อมาจากยุคที่คนไม่ได้ต้องการฮีโร่จนกระทั่งเริ่มกลับมาหาคำตอบว่าฮีโร่ยังมีความจำเป็นอยู่นะ โดยมี เฮเลน หรือ อิลาสติกเกิร์ล คุณแม่มาเป็นผู้นำโครงการที่จะทำให้ซูเปอร์ฮีโร่มีสิทธิตามกฏหมายอีกครั้ง จึงจำเป็นจะต้องทิ้งลูก ๆ ทั้ง 3 ไว้กับ บ๊อบ หรือ มิสเตอร์อินเครดิเบิ้ล คุณพ่อที่ต้องมานั่งปวดหัวกับการปรับตัวคอยเลี้ยงดูลูก แต่เมื่อมีวายร้ายคนใหม่ที่ฮีโร่คนเดียวไม่อาจรับมือได้ ครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่บวกกับมนุษย์น้ำแข็งเจ้าเดิมอย่างโฟรโซนจึงต้องออกมารับมือ

ผ่านมา 14 ปีแล้ว จากที่ฉายภาคแรก สิ่งที่ชอบเลยคือความคงเส้นคงวาของลายเส้น ที่ยังคงทำให้เราเหมือนได้ย้อนกลับในวัยเด็กที่ได้ดูภาคแรกนั้นอีกครั้ง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือ ความละเอียดของภาพและความสวยงามที่ในตอนนั้นสามารถทำได้ขนาดนั้น ในตอนนี้ก็ยังทำให้มันได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก เพลงธีมของเรื่องก็ยังคงติดอยู่ในหู การดำเนินเรื่องที่ใช้ตัวของ เฮเลน เป็นตัวเดินเรื่องหลักในฝั่งของฮีโร่ ทำให้เราได้สัมผัสกับความรู้สึกที่แตกต่างจากการบู๊ ทำลายล้างแบบภาคแรก เป็นการต่อสู้โดยทำให้ความเสียหายน้อยที่สุด กับการดำเนินเรื่องอันวุ่นวายของฝั่งพ่อบ้านที่เล่าผ่าน บ๊อบ ซึ่งฝั่งนี้สนุกมาก ทำให้เราได้เห็นอีกมุมนึงของคนที่คอยดูแลความเรียบร้อยของบ้านเลยว่าลำบากขนาดไหน และสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ เลยคือ การสะท้อนสังคมในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงบทบาทของ แจ๊คแจ๊ค ลูกชายคนเล็กที่มาขโมยซีนแบบสุด ๆ และเครดิตที่มาแบบภาคแรกเป๊ะ ๆ ทำให้เราคิดถึงวันวานเลยทีเดียว

แต่ด้วยความที่เป็นภาคต่อ หลังจากที่ดูจบก็ยังคงมีความรู้สึกว่าภาคเก่ายังทำออกมาได้ประทับใจกว่า อาจด้วยเหตุผลของการกระทำในทั้ง 2 ภาค มันต่างกันด้วย โดยภาคแรกคือเพื่อสนองความต้องการของคุณพ่อที่อยากกลับไปเป็นฮีโร่ กับ ภาคนี้ที่เป็นการกู้ชื่อเสียงของฮีโร่โดยคุณแม่ ซึ่งค่อนข้างจะเป็นสงครามจิตวิทยากับคนร้ายมากกว่า ไม่เหมือนการต่อสู้แบบบวก ๆ อย่างภาคแรก รวมถึงเหตุผลของตัวละครหลาย ๆ ตัวที่อาจจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ทั้งยังเดาทางได้ง่ายตามสูตรสำเร็จของหนังด้วย ทำให้ความสนุกดูดรอป ๆ ลงมา

อย่างไรก็ดี สำหรับ 14 ปีที่ไม่จำเป็นจะต้องทำต่อก็ได้ ก็ยังกลับมาทำต่อและยังทำออกมาได้น่าประทับใจ สนุก เหมือนได้ย้อนกลับไปวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งยังเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัยอีก ก็แนะนำให้ลองไปดูกันนะครับ ส่วนตัวให้ 8/10 สำหรับคนอื่นไปดูมาแล้วเป็นยังไง ประทับใจตรงไหนก็มาเล่าให้ฟังกันมั่งนะ

** มีเรื่องสั้นก่อนหนังฉายด้วย ชอบมากกกกกก **

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

เรื่องนี้รอมา 14 ปี กว่าจะมีภาคต่อ แต่นี่เป็นเรื่องจริงจากคนที่รอคนรักมากว่า 8 ปี

http://tellmeifyouwant.blogspot.com/2018/06/8-year-engagement-8.html