No Game No Life ZERO
No Game No Life ZERO : ภาพสวยตั้งแต่ต้น ทำไมเรื่องราวในเรื่องมันไม่สวยอย่างนี้บ้าง
ถ้าใครได้ติดตามอนิเมะหรือนิยายไลท์โนเวล ก็อาจจะคุ้น ๆ หู กับเรื่อง No game no life มาบ้างแล้ว หลังจากอนิเมะหายไปหลายปีก็มีการสร้างเป็นหนังโรงออกมาซึ่งกว่าจะเข้าบ้านเราก็ใช้เวลาตามหลังไปเกือบปี แต่ความคาดหวังที่มีต่อเรื่องนี้ไม่ได้ลดน้อยไปเลย
** อาจจะมีการสปอยล์บ้างเพราะนิยายมันเขียนออกมา 2-3 ปีแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามแนะนำให้ไปดูเวอร์ชั่นอนิเมะก่อนเพื่อเพิ่มอรรถรสและความเข้าใจในการชม **
บนโลกที่ตั้งอยู่บนดิสบอร์ด ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ได้ตัดสินด้วยเงินตรา อำนาจ ชื่อเสียงและพละกำลัง ทุกอย่างถูกตัดสินด้วยเกม และบนโลกนี้ก็มีพระเจ้าเพียงหนึ่งที่รอคอยให้มีผู้ที่จะสามารถเล่นเกมกับเขาได้ แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะตัดสินด้วยเกมเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นล่ะ และเรื่องราวเทพนิยายของ "ริคุ" เด็กหนุ่มชาวมนุษย์ และ "ชูวี่" เผ่าพันธุ์เอ็กซ์มาคินา (หุ่นจักรกล) ในรูปลักษณ์ของเด็กผู้หญิง ผู้ที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของโลกที่กำลังจะสูญสิ้นนี้ได้ถูกเล่าผ่าน "เทย์โตะ" พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวของโลกนี้ และเรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรก็ลองไปติดตามกันดูนะ
หลังจากที่แฟน ๆ ของเรื่องนี้รอมาเป็นแรมปีในที่สุดก็ได้เข้าไปดูซึ่งหลังจากออกมาแล้วบอกได้เลยว่าประทับใจมากทั้งการเล่าเรื่อง ภาพและเสียงที่จัดเต็มมาก (ในอนิเมะก็สวยอยู่ละนะ) ตั้งแต่ฉากแรกที่เริ่มเลยมันทำให้ผมได้รับอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครทั้งความสิ้นหวังจากสงคราม การดิ้นรนเอาตัวรอดของเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ต้องไปดิ้นรนเอาชีวิตรอดในมหาสงครามของเหล่าเผ่าพันธุ์ที่สามารถทำลายโลกนี้ได้ ฉากต่อสู้ก็ระเบิดเว่อวังอลังการสวยงามมาก คือทั้งโรงแทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่างานภาพเรื่องนี้สวยกว่า your name อีก ทั้งมุขตลกที่มีมาหย่อนอารมณ์ความตึงเครียดของหนังได้ถูกจังหวะ และเป็นการแสดงออกถึงลักษณะนิสัยตัวละครที่ถ้าหากใครติดตามอนิเมะและนิยายมาจะรู้สึกคุ้นเคยอยู่แล้ว และบทสรุปของเรื่องราวแม้จะมีการสูญเสียแต่ก็ถือว่าจบได้สวยงามล่ะนะ การสื่อความรู้สึกและพัฒนาการเห็นได้ชัดเลยจากดวงตาของตัวละครลองสังเกตดูนะ
แต่มันก็ยังมีจุดให้ตินิดหน่อยในเรื่องของซับไทยที่มีการสะกดคำผิดในหลายจุดและหลาย ๆ ประโยคอาจสื่อความหมายให้เราไม่เข้าใจยังต้องปรับปรุงในจุดนี้เพิ่ม เพลงประกอบผมว่าในเวอร์ชั่นอนิเมะพีคกว่า แต่ก็เพราะนะ นั่งฟังได้ยันจบแหละนึกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ ไม่มีนะ 5555
สำหรับเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็ก ๆ นักน่าจะประมาณ 15+ เพราะความตึงและมุขสัปดนมันก็เยอะแหละ ตอนนี้ก็สงสัยนะทำไมอนิเมะมันทำละดูสดใสกว่าฟระ 55555 สรุปโคตรคุ้มค่าตั๋ว ส่วนตัวให้ 9/10 ติดแค่เรื่องซับจริง ๆ ใครไปดูให้เท่าไหร่มาลองคุยกันดูนะ
"จะ 0 หรือ 100 มันก็แค่ตัวเลขที่ใช้ในห้องเรียนเท่านั้นแหละ"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ดูอนิเมชั่นญี่ปุ่นไปแล้ว อย่าลืมไปดูอนิเมชั่นฝีมือคนไทยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น