Kamen Rider Ex-aid Review No Spoil !!
Kamen Rider Ex-aid : บทสรุปของการทำให้หมอกับเกมมาอยู่ด้วยกันได้
หลังจากที่ได้ดูจนจบซีรี่ย์นี้ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ของวงการหนังแปลงร่างฝั่งญี่ปุ่นที่ ณ ตอนนี้มีการพูดถึงเยอะมาก ๆ ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเพิ่งจะฉายจบไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยก็มีหลายคนที่ได้รับชม และอีกหลายคนที่รอเข้ามาฉายอยู่
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2016 มีการพบโรคชนิดใหม่ที่ถูกเรียกว่า โรคเกม โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า Bugster กระทรวงสาธารณสุขและบริษัท Genm Corperation ได้ร่วมมือกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดรักษาอาการโรคเกม โดยอุปกรณ์นี้ถูกเรียกว่า Gamer Driver และ Gashat แล้วก็ได้คัดเลือกบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเกมและการแพทย์มาช่วยในการรักษา โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกมาจะถูกเรียกว่า Kamen Rider
-- จะพยายามหลีกเลี่ยง สปอยล์ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูนะครับ --
หลังจากที่ผมได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ สิ่งแรกที่หลาย ๆ เสียงค่อนข้างจะแตกไปคนละทางคือเรื่องของ Design ตัวละคร หลายคนชอบ หลายคนไม่ชอบ ส่วนตัวผมค่อนข้างจะโอเคนะ มันเป็นไปในคอนเซ็ปต์เกม ถ้าจะเป็นชุดออกมาประมาณนี้คือกำลังดีเลยล่ะ ทั้งสีสันและรูปทรง รวมถึงช่วงเวลาที่ต่อสู้ของ Kamen Rider แต่ละคนคือมันให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เล่นเกมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเสียงเอฟเฟคต์หรือส่วนประกอบในฉากที่ทำออกมา มันให้ความรู้สึกอย่างงั้นจริง ๆ ตัวละครแต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์ที่ทำให้เราจดจำเขาได้อย่างชัดเจน และพัฒนาการของแต่ละตัวละครที่เราจะได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง แต่ละคนจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป และเติบโตขึ้น ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อย ๆ ในละครบ้านเรา
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มันก็เป็นสไตล์ของบันไดที่ในช่วงแรกจะมีการขายของแบบเต็มสูบ แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ที่มันลื่นไหลและไม่ได้เน้นขายของหนักขนาดเรื่องอื่น ๆ (ถึงจะขายของก็เหอะ5555) หลังจากหมดช่วงขายของแล้ว เนื้อเรื่องกลับเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เฉลยหลาย ๆ ปม และก็ผูกปมต่อไป รวมถึงความหลากหลายของอารมณ์ที่มีแทบจะครบทุกรสเลยทีเดียว และตัวเนื้อเรื่องก็แบ่งออกเป็นหลายช่วงทำให้เราเข้าใจแต่ละส่วนได้ง่าย เหมือนกับการเล่นเกมที่มันจะค่อย ๆ ตะลุยด่านไปเจอบอสแต่ละตัว ๆ และจะค่อย ๆ ยากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราได้ลุ้นไปกับทุกช่วงของซีรี่ย์เรื่องนี้เลย
การเลือกเพลงประกอบในแต่ละช่วงก็เป็นส่วนสำคัญที่จะดึงอารมณ์ของคนดูให้อินกับตัวบทและเรื่องราวได้ ซึ่งการเลือกเพลงมาประกอบนั้นจัดว่าโอเคมาก ๆ ทุก ๆ เพลงสามารถสื่ออารมณ์ของตัวละครได้อย่างชัดเจน เพลงประจำตัวก็มีทำให้เป็นเอกลักษณ์อีกจุดที่มันสื่อให้เราได้รู้สึกถึงบุคลิกของตัวละครนั้น ๆ ยิ่ง Excite เพลงเปิดนี่ถือว่าเป็นเพลงที่ชอบเป็นลำดับต้น ๆ ของซีรี่ย์ Kamen Rider ได้เลย รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไม่รู้จะเข้ามาฉายในไทยเมื่อไหร่อย่าง Life is Beautiful ก็มีความติดหูมาก และเพราะซะด้วย เสียงประกอบแบบเกมก็ทำได้ดีครับ ถูกใจมาก
ในส่วนของนักแสดงนี่ก็บอกเลยว่า ของโคตรดี เข้าถึงบทบาทมากครับ และอย่างที่บอกไปว่าแต่ละตัวละครก็จะมีเอกลักษณ์และพัฒนาการที่ต่าง ๆ กันไป นักแสดงที่ได้รับมอบบทมาก็สามารถดึงจุดนี้ให้ออกมาเห็นอย่างชัดเจน และหลาย ๆ บทมันก็สะท้อนถึงสิ่งที่มีและเกิดขึ้นในสังคมจริง ๆ ทุกอย่าง ทุกการกระทำมีความหมายแทบทั้งสิ้น และห้ามพลาดฉากใดฉากหนึ่งหรือประโยคใด ๆ ในเรื่องเลยเพราะมันจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยปกติถ้าเราได้ดูในเว็บอะไรพวกนี้ ไม่แปลกถ้าเราจะขยับฉากหรือเลื่อนให้มันไปเร็วขึ้น แต่กับเรื่องนี้เป็น 1 ในไม่กี่เรื่องที่ผมนั่งดู 1 ตอนจนจบไม่กดข้ามอะไร เพราะทุก ๆ สิ่งมีความหมายและส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต
ข้อดีเยอะแล้ว แต่มันก็มีจุดที่ผมว่ามันเล็กน้อย ๆ มากถ้าไม่ได้สังเกตเราแทบจะมองข้ามมันไปเลย แล้วก็ในส่วนของจำนวนตอน ที่ผมว่ามันน่าจะเยอะกว่านี้น่าจะโอเค แต่ถ้าเยอะกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นได้ขนาดนี้ไหม ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ผมมองข้ามได้ เพราะทุก ๆ อย่างทำมาโอเคแบบ โอเคมากกกกกกก โอเคซะจนไม่รู้จะติอะไรเลย หลาย ๆ ฉากก็ทำได้จริงกว่าละครอีก ขนาดนี่แบบการ์ตูนแท้ ๆ ข้อคิดก็เยอะ สอนอะไรได้เยอะมาก ๆ และอาจจะเป็นแรงบันดาลใจในการทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่างให้กับหลาย ๆ คนได้เลย
สรุปแล้ว เป็นซีรี่ย์ Kamen Rider ที่ส่วนตัวผมว่าดีที่สุดใน Heisei Phase 2 เลย ทุก ๆ อย่างลงตัว แทบจะไม่มีช่วงที่ดูแล้วอยากหลับเลย เพลงประกอบดี นักแสดงดี เนื้อเรื่องดี ทุก ๆ อย่างดี ถ้าตีเป็นคะแนนนี่แบบ 100/10 เลย คือถ้าใครไม่ได้ดูนี่ผมว่าพลาดมาก เป็น Kamen Rider ที่สามารถดูได้อย่างสนุกจริง ๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แนะนำว่าดูให้ได้นะครับ กำลังจะเข้ามาฉายในไทยแล้วด้วยในวันที่ 9 กันยายน ช่อง Workpoint 23 โดยมี Dex ถือลิขสิทธิ์ ปกติแล้วกว่าจะได้ดู Kamen Rider นี่แบบ Delay ไป 2 ปี มีเรื่องนี้นี่แหละกระแสดีจนถึงกับต้องข้าม Rider รุ่นพี่อย่าง Drive กับ Ghost ไปเลย ยังไงก็อย่าพลาดนะครับ
พยายามหลีกเลี่ยงสปอยล์แบบสุด ๆ แล้วเพื่อคนที่ยังไม่ได้ดู แต่ถ้าใครต้องการจะดูสปอยล์แบบยับยู่ยี่ ก็ไปติดตามได้ที่ คนผ่านมาเล่า ขอเวลาไปนั่งเรียบเรียงข้อมูลก่อนนะ ทั้งเนื้อเรื่องและตัวละครแบบเจาะลึกเลย ติดตามกันได้
หลังจากที่ได้ดูจนจบซีรี่ย์นี้ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ของวงการหนังแปลงร่างฝั่งญี่ปุ่นที่ ณ ตอนนี้มีการพูดถึงเยอะมาก ๆ ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเพิ่งจะฉายจบไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยก็มีหลายคนที่ได้รับชม และอีกหลายคนที่รอเข้ามาฉายอยู่
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2016 มีการพบโรคชนิดใหม่ที่ถูกเรียกว่า โรคเกม โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า Bugster กระทรวงสาธารณสุขและบริษัท Genm Corperation ได้ร่วมมือกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดรักษาอาการโรคเกม โดยอุปกรณ์นี้ถูกเรียกว่า Gamer Driver และ Gashat แล้วก็ได้คัดเลือกบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเกมและการแพทย์มาช่วยในการรักษา โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกมาจะถูกเรียกว่า Kamen Rider
-- จะพยายามหลีกเลี่ยง สปอยล์ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูนะครับ --
หลังจากที่ผมได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ สิ่งแรกที่หลาย ๆ เสียงค่อนข้างจะแตกไปคนละทางคือเรื่องของ Design ตัวละคร หลายคนชอบ หลายคนไม่ชอบ ส่วนตัวผมค่อนข้างจะโอเคนะ มันเป็นไปในคอนเซ็ปต์เกม ถ้าจะเป็นชุดออกมาประมาณนี้คือกำลังดีเลยล่ะ ทั้งสีสันและรูปทรง รวมถึงช่วงเวลาที่ต่อสู้ของ Kamen Rider แต่ละคนคือมันให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เล่นเกมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเสียงเอฟเฟคต์หรือส่วนประกอบในฉากที่ทำออกมา มันให้ความรู้สึกอย่างงั้นจริง ๆ ตัวละครแต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์ที่ทำให้เราจดจำเขาได้อย่างชัดเจน และพัฒนาการของแต่ละตัวละครที่เราจะได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง แต่ละคนจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป และเติบโตขึ้น ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อย ๆ ในละครบ้านเรา
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มันก็เป็นสไตล์ของบันไดที่ในช่วงแรกจะมีการขายของแบบเต็มสูบ แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ที่มันลื่นไหลและไม่ได้เน้นขายของหนักขนาดเรื่องอื่น ๆ (ถึงจะขายของก็เหอะ5555) หลังจากหมดช่วงขายของแล้ว เนื้อเรื่องกลับเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เฉลยหลาย ๆ ปม และก็ผูกปมต่อไป รวมถึงความหลากหลายของอารมณ์ที่มีแทบจะครบทุกรสเลยทีเดียว และตัวเนื้อเรื่องก็แบ่งออกเป็นหลายช่วงทำให้เราเข้าใจแต่ละส่วนได้ง่าย เหมือนกับการเล่นเกมที่มันจะค่อย ๆ ตะลุยด่านไปเจอบอสแต่ละตัว ๆ และจะค่อย ๆ ยากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราได้ลุ้นไปกับทุกช่วงของซีรี่ย์เรื่องนี้เลย
การเลือกเพลงประกอบในแต่ละช่วงก็เป็นส่วนสำคัญที่จะดึงอารมณ์ของคนดูให้อินกับตัวบทและเรื่องราวได้ ซึ่งการเลือกเพลงมาประกอบนั้นจัดว่าโอเคมาก ๆ ทุก ๆ เพลงสามารถสื่ออารมณ์ของตัวละครได้อย่างชัดเจน เพลงประจำตัวก็มีทำให้เป็นเอกลักษณ์อีกจุดที่มันสื่อให้เราได้รู้สึกถึงบุคลิกของตัวละครนั้น ๆ ยิ่ง Excite เพลงเปิดนี่ถือว่าเป็นเพลงที่ชอบเป็นลำดับต้น ๆ ของซีรี่ย์ Kamen Rider ได้เลย รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไม่รู้จะเข้ามาฉายในไทยเมื่อไหร่อย่าง Life is Beautiful ก็มีความติดหูมาก และเพราะซะด้วย เสียงประกอบแบบเกมก็ทำได้ดีครับ ถูกใจมาก
ในส่วนของนักแสดงนี่ก็บอกเลยว่า ของโคตรดี เข้าถึงบทบาทมากครับ และอย่างที่บอกไปว่าแต่ละตัวละครก็จะมีเอกลักษณ์และพัฒนาการที่ต่าง ๆ กันไป นักแสดงที่ได้รับมอบบทมาก็สามารถดึงจุดนี้ให้ออกมาเห็นอย่างชัดเจน และหลาย ๆ บทมันก็สะท้อนถึงสิ่งที่มีและเกิดขึ้นในสังคมจริง ๆ ทุกอย่าง ทุกการกระทำมีความหมายแทบทั้งสิ้น และห้ามพลาดฉากใดฉากหนึ่งหรือประโยคใด ๆ ในเรื่องเลยเพราะมันจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยปกติถ้าเราได้ดูในเว็บอะไรพวกนี้ ไม่แปลกถ้าเราจะขยับฉากหรือเลื่อนให้มันไปเร็วขึ้น แต่กับเรื่องนี้เป็น 1 ในไม่กี่เรื่องที่ผมนั่งดู 1 ตอนจนจบไม่กดข้ามอะไร เพราะทุก ๆ สิ่งมีความหมายและส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต
ข้อดีเยอะแล้ว แต่มันก็มีจุดที่ผมว่ามันเล็กน้อย ๆ มากถ้าไม่ได้สังเกตเราแทบจะมองข้ามมันไปเลย แล้วก็ในส่วนของจำนวนตอน ที่ผมว่ามันน่าจะเยอะกว่านี้น่าจะโอเค แต่ถ้าเยอะกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นได้ขนาดนี้ไหม ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ผมมองข้ามได้ เพราะทุก ๆ อย่างทำมาโอเคแบบ โอเคมากกกกกกก โอเคซะจนไม่รู้จะติอะไรเลย หลาย ๆ ฉากก็ทำได้จริงกว่าละครอีก ขนาดนี่แบบการ์ตูนแท้ ๆ ข้อคิดก็เยอะ สอนอะไรได้เยอะมาก ๆ และอาจจะเป็นแรงบันดาลใจในการทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่างให้กับหลาย ๆ คนได้เลย
สรุปแล้ว เป็นซีรี่ย์ Kamen Rider ที่ส่วนตัวผมว่าดีที่สุดใน Heisei Phase 2 เลย ทุก ๆ อย่างลงตัว แทบจะไม่มีช่วงที่ดูแล้วอยากหลับเลย เพลงประกอบดี นักแสดงดี เนื้อเรื่องดี ทุก ๆ อย่างดี ถ้าตีเป็นคะแนนนี่แบบ 100/10 เลย คือถ้าใครไม่ได้ดูนี่ผมว่าพลาดมาก เป็น Kamen Rider ที่สามารถดูได้อย่างสนุกจริง ๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แนะนำว่าดูให้ได้นะครับ กำลังจะเข้ามาฉายในไทยแล้วด้วยในวันที่ 9 กันยายน ช่อง Workpoint 23 โดยมี Dex ถือลิขสิทธิ์ ปกติแล้วกว่าจะได้ดู Kamen Rider นี่แบบ Delay ไป 2 ปี มีเรื่องนี้นี่แหละกระแสดีจนถึงกับต้องข้าม Rider รุ่นพี่อย่าง Drive กับ Ghost ไปเลย ยังไงก็อย่าพลาดนะครับ
พยายามหลีกเลี่ยงสปอยล์แบบสุด ๆ แล้วเพื่อคนที่ยังไม่ได้ดู แต่ถ้าใครต้องการจะดูสปอยล์แบบยับยู่ยี่ ก็ไปติดตามได้ที่ คนผ่านมาเล่า ขอเวลาไปนั่งเรียบเรียงข้อมูลก่อนนะ ทั้งเนื้อเรื่องและตัวละครแบบเจาะลึกเลย ติดตามกันได้
เอาเพลง OP อย่าง Excite ไปเสพย์ก่อนนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เรื่องราวของรุ่นพี่ก็มีเขียนไว้บ้างนะ ลองเข้าไปอ่านกันได้กับเรื่องราวของนักสืบ 2 คนในหนึ่งเดียว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น