Ready Player One : สงครามเกมคนอัจฉริยะ

Ready Player One : อีสเตอร์เอ๊กของฉันน่ะเหรอ ไปหาเอาซี่ ฉันซ่อนอยู่ในเกมนี้นี่แหละ!

ไม่ใช่เรื่องบ่อยนักที่หนังที่เกี่ยวข้องกับเกม จะถูกสร้างออกมาให้ดีและโดนใจผู้ชมโดยมาก ยิ่งเป็นหนังที่ซ่อน Easter Eggs ไว้เยอะแยะแบบหนังเรื่องนี้ หลาย ๆ คนก็คงจะคิดว่ามันก็แค่รวมสิ่งที่คนคิดถึง เนื้อเรื่องมันคงจะห่วย แต่ตรรกะเรื่องนั้นผมมองว่ามันใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้แฮะ สำหรับเรื่อง Ready Player One หนัง Easter Eggs น้ำดีที่ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวที่สนุกรวมถึงความทรงจำหลาย ๆ อย่างทั้งในวัยเด็กจนถึงปัจจุบันที่อยู่ในหนังเรื่องนี้

เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคอนาคตที่โลกความจริงค่อนข้างจะอยู่ยาก ไม่สะดวกสบายนัก จึงทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะหนีจากโลกความเป็นจริง ไปอยู่กับโลกของเกมออนไลน์ VR อย่าง The Oasis ที่จะสามารถทำอะไรก็ได้และเป็นอะไรก็ได้ และ James Holiday ผู้สร้างเกม The Oasis ที่ล่วงลับไปแล้วได้ทิ้ง Easter Eggs บางอย่างไว้ ให้ผู้ที่ค้นพบมันจะได้ครอบครอง ทุก ๆ อย่างของ Oasis ไม่ว่าจะเซิฟเวอร์เกม หุ้นบริษัท ข้อมูลทั้งหมด แต่นับจากวันนั้นก็ยังไม่มีใครที่ค้นพบสิ่งที่เขาซ่อนไว้ได้เลย จนกระทั่งพระเอกของเรื่อง Wait What เอ้ย Wade Watts ได้ค้นพบกุญแจดอกแรก ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและถูกตามไล่ล่าจากผู้ที่ต้องการครอบครอง The Oasis แล้วเรื่องราวจะเป็นยังไงก็ไปลองติดตามกันดูละกัน

อย่างที่เกริ่นไปในตอนแรก มันเป็นหนังที่รวมความทรงจำในวัยเด็ก วันรุ่น จนมาถึงตอนนี้ แทบจะทุกอย่างที่เราได้ผ่านมามันซ่อนอยู่ในหนัง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ชีวิตผ่านสิ่งเหล่านี้มาหมด ซึ่งมันอาจจะทำให้คนที่ไม่เคยผ่านสิ่งเหล่านี้มา ไม่ประทับใจในตัวหนัง หรือมีความตื่นเต้นในการดูหนังเรื่องนี้มากนัก โชคดีที่ว่า Easter Eggs ที่ซ่อนในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้หนังสนุก แต่เป็นทั้งหมดของหนังที่จะทำให้ผู้ชมอย่างเราสามารถเพลิดเพลินได้แม้ว่าจะไม่รู้จักสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหนังก็ตาม 

ข้อดีของหนังก่อนเลยฮะ คือ ความลงตัวในการเล่าเรื่องระหว่างโลกเกมกับความเป็นจริง และผู้สร้างได้แฝงความคิดรวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงสังคมในตอนนี้ด้วยว่า เราอาจจะอยู่ในโลกมายามากกว่าโลกความเป็นจริงแล้วหรือเปล่า ซึ่งตัวหนังสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงเรื่องดีและเรื่องร้าย ของคนที่เสพติดการอยู่กับจินตนาการและความเพ้อฝันมากเกินไป จนทำร้ายความเป็นจริง การเล่าเรื่องไม่ซับซ้อนเข้าใจได้ง่าย และมีอะไรหลาย ๆ อย่างมาเซอร์ไพรส์เราแน่ ๆ บทสรุปก็ทำออกมาได้สวยงามครับสำหรับเรื่องนี้ เพลงประกอบก็ทำให้เรานึกย้อนกลับไปถึงช่วงยุค 80-90 เลย รู้สึกแก่ขึ้นมาเลยหลังจากดูจบ 5555555

แต่ในข้อดีของหนังกลับเป็นข้อเสียใหญ่ให้กับหนังด้วยเช่นกัน ด้วยความที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเกม การ์ตูน หนัง หนังสือ ทำให้มันกลายเป็นหนังที่ถ้าใครไม่เคยติดตามหรือสนใจในเรื่องนี้ อาจจะไม่ว้าว ไม่ชอบเพราะหลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ประโยคเป็นการเล่นกับเรื่องเหล่านั้น ไม่ว่าจะบทพูดจากหนัง บทพูดจากเกม ฉากที่ล้อกับหนัง เกม และนิยายหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งผมคิดว่าถ้าไม่ใช่คนที่ชอบทางนี้อยู่แล้วมาดูอาจจะให้คะแนนอยู่ที่ 6-7/10 เลยครับ

สำหรับหนังเรื่องนี้ถ้าใครไม่ใช่คอหนัง เกม หรือการ์ตูน ไปดูอาจจะไม่ได้ลุ้น หรือรู้สึกประทับใจอะไรมากนัก แต่ถ้าคุณโตมากับสิ่งเหล่านี้ นี่จะเป็นหนังที่คุณรักมาก ๆ อีกเรื่องเลยทีเดียวครับ ส่วนตัวให้ 9.5/10 แล้วคนที่ไปดูมาแล้วจะให้กันกี่คะแนนนะ แล้วเจอ Easter Eggs อะไรซ่อนอยู่ในหนังบ้างมาเล่าให้ฟังหน่อยนะ 

"เพราะโลกจริงเป็นที่เดียว ที่เราสามารถลิ้มรสของอร่อยได้"

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

พูดถึงการ์ตูน เรื่องนี้เพิ่งจบไปหมาด ๆ เลย ลองเข้ามาอ่านมาคุยกันดูนะ

https://tellmeifyouwant.blogspot.com/2018/03/dragon-ball-super.html